การปรับ EQ สำหรับเพลงต่างๆ ในงานคอนเสิร์ต

การ Equalization (EQ) ในการจัดคอนเสิร์ตเป็นส่วนสำคัญของวิศวกรรมเสียง ซึ่งเป็นการปรับสมดุลระหว่างความถี่ภายในสัญญาณเสียง ในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการปรับ EQ สำหรับเพลงรูปแบบต่างๆ

EQ สำหรับเพลงร็อค

• เสียงกีตาร์ : เพิ่มความถี่ช่วงกลาง (ประมาณ 500Hz ถึง 2kHz) เพื่อดึงความเด่นของกีตาร์ออกมา ลงลงประมาณ 300-400Hz เล็กน้อยเพื่อลดความขุ่นของเสียงกีต้าร์
• เสียงเบส : เพิ่มเสียงต่ำ (ประมาณ 50-100Hz) เพื่อให้ได้เสียงเบสที่เต็มอิ่มยิ่งขึ้น และควรระวังเสียงกลางตอนล่างเพื่อป้องกันการเกิดเสียงเบสสะท้อนหรือกระหึ่มมากเกินไป
• เสียงร้อง : เพิ่มประมาณ 3kHz เพื่อความชัดเจนและความโดดเด่นในเสียงร้อง ระวังเรื่องของเสียงที่อาจจะหอน การตัดช่วงย่านความถี่แคบๆ ประมาณ 5-7kHz สามารถช่วยได้
• เสียงกลอง : บูสต์เสียงต่ำ (50-100Hz) สำหรับ kick drum และ 2-4kHz สำหรับเสียงแคร็กของสแนร์ เพิ่มความชัดเจนให้กับฉาบด้วยการเพิ่มเสียงย่านความถี่บริเวณ 10kHz

EQ สำหรับเพลงป๊อป

• เสียงร้อง : เนื่องจากเสียงร้องเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเพลงป๊อป ให้เพิ่มประมาณ 1-5kHz เพื่อความชัดเจน ตัดความถี่สูงออกเล็กน้อยสามารถขจัดเสียงก้องบางอย่างที่อาจจะไม่จำเป็นได้
• เสียงเบส : เสียงเบสที่ดีสำหรับเพลงป๊อบ คือ เสียงที่หนักแน่นแต่ไม่หนักเกินไป ควรบูสต์ประมาณ 80-150Hz ตัดลดเสียงสูงลงประมาณ 200-300Hz เล็กน้อยเพื่อลดความขุ่น
• เสียงซินธ์และแพด : สามารถปรับได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเพิ่มย่านความถี่ระดับสูง (สูงกว่า 6kHz) หรือเพิ่มเสียงกลางล่าง (ประมาณ 200-400Hz) เพื่อเพิ่มความอบอุ่นของเสียง
• เสียงกลอง : เสียงกลองที่เร็วเป็นสิ่งสำคัญ เพิ่มประมาณ 100Hz สำหรับเสียงกระหึ่มของ kick drum และประมาณ 3kHz สำหรับสแนร์

EQ สำหรับดนตรีแจ๊ส

• เครื่องดนตรีอะคูสติก : รักษาเสียงที่เป็นธรรมชาติด้วย EQ เพียงเล็กน้อย การตัดเสียงกลางล่างเล็กน้อย (ประมาณ 200-400Hz) สามารถลดความขุ่นในเครื่องดนตรี เช่น ดับเบิลเบสหรือเปียโนได้ เนื่องจากเครื่องดนตรีเหล่านี้มักจะมีความขุ่นและความทุ้มต่ำที่อาจจะขัดอารมณ์ของเพลงเล็กน้อย
• แซ็กโซโฟนและทองเหลือง : เพิ่มย่านความถี่เบาๆ ประมาณ 2-4kHz เพื่อเพิ่มเสียงของเครื่องดนตรีทองเหลือง แต่ไม่ควรให้เสียงเครื่องดนตรีทองเหลืองดังเกินไป เนื่องจากอาจจะทำให้เพลงดูวุ่นวายได้
• กลอง : กลองแจ๊สมักต้องการเสียงที่เป็นธรรมชาติและมีความลื่นไหล การเพิ่มความถี่เล็กน้อยประมาณ 80Hz สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ kick drum ได้ 

EQ สำหรับเพลงฮิปฮอป

• เสียงเบสและเสียงต่ำ : เบสและ kick drum ถือเป็นเสียงที่สำคัญที่สุดของฮิปฮอป เพิ่มความลึกประมาณ 60-80Hz และตัดประมาณ 200-250Hz เล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงเสียงสะท้อน
• เสียงร้อง : เสียงร้องที่ชัดเจนเป็นกุญแจสำคัญ เพิ่มประมาณ 2-5kHz เพื่อความชัดเจน
• เสียงกลอง : การเพิ่มความเร็วเล็กน้อยประมาณ 8-10kHz จะเพิ่มความคมชัดให้กับไฮแฮท และประมาณ 4kHz สำหรับสแนร์

EQ สำหรับดนตรีคลาสสิก

• กีต้าร์โปร่ง : หลีกเลี่ยงการปรับ EQ ที่มาเกินไป การตัดออกเล็กน้อยประมาณ 200Hz จะช่วยลดความขุ่นของเสียงกีต้าร์ บูสต์ประมาณ 8-12kHz ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายได้
• เครื่องเป่าลมไม้ : รักษาโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติ การเพิ่มเล็กน้อยประมาณ 1-3kHz สามารถปรับปรุงความชัดเจนแต่ไม่แข็งกระด้างมากเกินไป
• เครื่องดนตรีทองเหลือง : การเพิ่มเล็กน้อยประมาณ 2-4kHz สามารถเพิ่มความสดใสได้ ระมัดระวังกับความถี่ที่ต่ำกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เสียงโดดเด่นเกินไป

EQ สำหรับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์/แดนซ์

• Kick Drum : นี่คือ องค์ประกอบสำคัญใน EDM เพิ่มประมาณ 100Hz เพื่อความอบอุ่น และประมาณ 3kHz สำหรับ
• ซินธ์: เพิ่มระดับเสียงสูงเพื่อความสว่างหรือความถี่ต่ำลงเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ตัดเสียงกลางเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการที่เสียงซินธ์จะกระทบกับองค์ประกอบดนตรีอื่นๆ 
• เสียงเบส : ในเพลงแนวนี้ต้องใช้เสียงเบสที่ลึกและหนักแน่นด้วยบูสต์ประมาณ 80-120Hz

อย่างไรก็ตาม การปรับ EQ นั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของสถานที่จัดแสดง เครื่องดนตรี และเครื่องเสียงงานคอนเสิร์ตที่แตกต่างกัน ดังนั้น การปรับ EQ ที่มีประสิทธิภาพคือการปรับให้เข้ากับปัจจัยต่างๆ ควรใช้เทคนิค sound check ต่างๆ ที่เราได้แนะนำไปในบทความที่แล้วเพื่อให้การปรับ EQ นั้นไพเราะที่สุด