Auto-Tune เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในเพลงที่ช่วยให้นักร้องปรับแต่งเสียงที่ร้องออกมาได้อย่างอิสระ คิดค้นในปี 1997 โดยบริษัทชื่อ Antares Audio Technologies
เมื่อเสียงของนักร้องผิดคีย์เล็กน้อย Auto-Tune ก็สามารถแก้ไขได้ โดยมีการใช้บ่อยในสตูดิโอบันทึกเสียงและบางครั้งก็ใช้ในคอนเสิร์ตสดเช่นเดียวกัน
Auto-Tune ทำงานอย่างไร
ลองนึกภาพการร้องเพลงและรู้สึกว่าเสียงของคุณมีโน้ตสองสามตัวที่ไม่ถูกต้องนัก Auto-Tune เปรียบเสมือนเพื่อนที่คอยช่วยเหลือซึ่งจะปรับโน้ตเหล่านั้นให้อยู่ในระดับเสียงที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว หลักๆ แล้วจะทำงานดังนี้
- การค้นหาและแก้ไขระดับเสียง : Auto-Tune จะฟังเสียงร้องและค้นหาโน้ตที่ไม่อยู่ในเสียงนั้น จากนั้นจะเปลี่ยนโน้ตเหล่านี้ให้ตรงกับระดับเสียงที่ถูกต้อง
- ความเร็วของการแก้ไข : คุณสามารถควบคุมความเร็วของ Auto-Tune ในการแก้ไขโน้ตได้ หากตั้งค่าให้ทำงานเร็วมาก Auto-Tune จะสร้างเสียงในรูปแบบที่คุณอาจเคยได้ยินในเพลงของนักร้องอย่าง T-Pain
- ทำให้เสียงเป็นธรรมชาติ : Auto-Tune มีคุณสมบัติที่ช่วยให้เสียงยังคงฟังแล้วเป็นธรรมชาติ นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การร้องเพลงฟังดูสมจริงและไม่เหมือนหุ่นยนต์
- การรักษาเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของนักร้อง : แม้ว่า Auto-Tune จะเปลี่ยนระดับเสียงของโน้ต แต่ก็จะพยายามรักษาคุณภาพเสียงต้นฉบับของนักร้องไว้
การใช้งาน Auto-Tune ในคอนเสิร์ต
ในคอนเสิร์ต นักร้องมักจะใช้ Auto-Tune เพื่อให้แน่ใจว่าเสียงจะออกมาสมบูรณ์แบบ โดยสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในการร้องเพลงได้ทันทีที่เกิดขึ้น นักร้องจะใช้อุปกรณ์พิเศษหรือเครื่องเสียงงานคอนเสิร์ตคุณภาพสูง เพื่อที่ผู้ชมจะได้ไม่สังเกตเห็นความดีเลย์หรือเสียงที่ถูกสังเคราะห์
ใช้ Auto-Tune ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก Auto-Tune โดยเฉพาะในการแสดงสด คุณต้องมีเครื่องเสียงงานคอนเสิร์ตที่ดีและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าแม้จะเป็นเสียงสังเคราะห์แต่ก็สามารถสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ฟังได้ ดังนี้
- ไมโครโฟนที่ดี : ไมโครโฟนที่ชัดเจนและแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ Auto-Tune สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น
- อินเทอร์เฟซเสียงที่มีดีเลย์ต่ำ : ในการแสดงสด อุปกรณ์ควรทำงานอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการดีเลย์ เพื่อให้ทั้งตัวนักร้องและผู้ฟังได้ยินเสียงที่ถูกแก้ไขโดย Auto-Tune แบบเรียลไทม์
- Digital Audio Workstation (DAW) : ในสตูดิโอ คุณต้องมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คุณสามารถเพิ่ม Auto-Tune ให้กับเสียงของนักร้องได้ โปรแกรมอย่าง Pro Tools หรือ Ableton Live ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ
- ลำโพงหรือหูฟังที่ดี : เพื่อให้นักร้องได้ยินเสียงตัวเองชัดเจนในคอนเสิร์ต จำเป็นต้องมีลำโพงหรือหูฟังแบบ in-ear monitor คุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาร้องเพลงได้ดีขึ้น และช่วยให้ Auto-Tune ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซอฟแวร์แนะนำสำหรับการทำ Auto-Tune
สำหรับการบันทึกในสตูดิโอ
- Antares Auto-Tune Pro : ได้รับความนิยมสำหรับ Auto-Tune ในสตูดิโอโดยละเอียด
- Celemony Melodyne : เหมาะสำหรับนักร้องที่ต้องการ Auto-Tune ที่เป็นธรรมชาติ
- Waves Tune : ขึ้นชื่อเรื่องการแก้ไขอย่างเป็นธรรมชาติและใช้งานง่าย
สำหรับคอนเสิร์ต
- TC-Helicon VoiceLive : ฮาร์ดแวร์สำหรับการแก้ไขระดับเสียงแบบเรียลไทม์ในการแสดงสด
- Antares Auto-Tune Live : ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในการแสดงสด โดดเด่นเรื่องดีเลย์ที่ต่ำ
- Behringer ULTRAC Voice Changer : ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาที่ถูก
ข้อดีของการใช้ Auto-Tune ในคอนเสิร์ต
- ทำให้นักร้องเสียงสมบูรณ์แบบ : ช่วยให้นักร้องร้องตามคีย์ได้อย่างถูกต้องระหว่างการแสดง
- เพิ่มความมั่นใจ : นักร้องจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่าข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ จะได้รับการแก้ไข ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการแสดง
- การแสดงที่สม่ำเสมอ : ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการแสดงที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ แม้ว่านักร้องอาจจะเสียงแหบหรือเสียงดรอปลงก็ตาม
ข้อเสียของการใช้ Auto-Tune ในคอนเสิร์ต
- เสียงที่เป็นธรรมชาติน้อยลง : บางครั้งเสียงอาจฟังดูสมบูรณ์แบบเกินไปหรือไม่เป็นธรรมชาติ
- การพึ่งพาเทคโนโลยี : นักร้องอาจพึ่งพาการ Auto-Tune มากเกินไปและทำให้ขาดการพัฒนาทักษะ
- ปัญหาทางเทคนิค : หากเกิดปัญหากับอุปกรณ์อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงหรือเสียงไม่ดีได้